ใครที่ติดตามเพจสมองไหลมาตั้งแต่แรกๆ โดยเฉพาะช่วงแร...

ใครที่ติดตามเพจสมองไหลมาตั้งแต่แรกๆ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มจัดรายการ Live จะเห็นเลยว่าทั้งคุณภาพของภาพ แสง เสียง รวมไปถึง สัญญาณการเชื่อมต่อต่างๆ เรียกได้ว่าต่ำมากๆ
.
ด้วยความที่ผมทำเพจคนเดียว แถมความรู้ด้าน Video streaming ก็มีแค่พอถูๆ ไถๆ สิ่งที่ผมทำได้ จึงดีที่สุดแค่นั้นจริงๆ หรือ จะเรียกว่ามือสมัครเล่นก็คงไม่ผิดนัก
.
ณ ตอนนั้นผมใช้แค่โทรศัพท์มือถือ Iphone 11 เครื่องเดียว แล้วก็ไปซื้อไมค์แบบติดปกมา แล้วก็ใช้โคมไฟอ่านหนังสือส่องหน้าเอา ซึ่งมันก็ฟังดูไม่ได้ยากอะไร
.
แต่ความจริงที่หลายคนไม่รู้ก็คือ กว่าผมจะสามารถกดเปิดกล้องเพื่อคุยกับทุกคนได้ ผมต้องเซ็ตระบบประมาณ 1 ชั่วโมงทุกครั้ง และ ทุกครั้งก็ทำเอาเหงื่อตกทุกที เพราะผมต้องจัดโต๊ะให้เข้ามุมสวยๆ เอาขาตั้งกล้องมากาง เอาโทรศัพท์มาเซ็ตมุมกล้อง เอาโคมไฟมาส่อง จากนั้นก็เอาปลั๊กพ่วงมาวางแล้วเสียบสายชาร์จมือถือ สายชาร์จโคมไฟ แล้วก็เอาไมค์มาเสียบ โดยที่หลังกล้องมีแต่สายไฟพันมั่วเต็มไปหมด ที่สำคัญหลายคนก็น่าจะรู้ว่า Iphone นั้นมีพอร์ตช่องเดียว มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถเสียบสายชาร์จ และ ไมค์-หูฟัง พร้อมกันได้ ผมจึงต้องสลับกันเสียบระหว่าง Live
.
ถ้าเห็นแบตใกล้หมดก็ต้องถอดไมค์ติดปกออก แล้วใช้ไมค์ในตัวโทรศัพท์เอา ถ้าแบตเริ่มเต็มแล้ว ก็เสียบสายไมค์เข้าไปใหม่ สลับกันอยู่อย่างนี้ นั่นจึงทำให้หลายครั้งสัญญาณภาพก็หลุดไปดื้อๆ เพราะแบตหมดโดยไม่รู้ตัว ยังไม่นับรวมระบบ Live streaming หลังบ้าน ที่มอนิเตอร์กันมั่วมากๆ อีก
.
นั่นจึงทำให้การ Live แต่ละครั้งของผมนั้นต้องใช้พลังงานสูงมาก แค่เซ็ตระบบก่อนจะเริ่ม Live ก็เหนื่อยแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเมื่อ Live เสร็จ เพราะสภาพของผมยิ่งกว่าคนไปออกรบ โต๊ะที่จัดไว้ สายไฟที่พันระโยงระยาง ไม่ต้องพูดถึง เพราะผมไม่สามารถเก็บกวาดไหว ต้องตื่นมาเก็บตอนเช้าทุกที
.
ถามว่าอยากทำให้มันดีกว่านี้ไหม คำตอบคือ “อยาก” แต่ด้วยความรู้อันน้อยนิดที่สมองผมมี การจะไปซื้ออุปกรณ์แต่ละที ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะของแต่ละอย่างราคาก็ไม่ใช่ร้อยสองร้อย ถ้าเกิดซื้อผิดขึ้นมา ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาเงินไปโยนทิ้ง
.
ซึ่งผมก็ฝืนทำอยู่อย่างนี้มา 3 เดือนเต็มๆ
.
จนอยู่มาวันหนึ่งผมก็รู้จักกับคุณเอฟ เจ้าของเพจ Undervlog ซึ่งตอนแรกก็เป็นลูกค้าที่เข้ามาซื้อหนังสือกับผมเหมือนคนทั่วไปนี่แหละ แต่บังเอิญว่าเราพักอยู่ในระแวกเดียวกัน คุณเอฟจึงขอมารับเองกับมือ ซึ่งหลังจากที่ซื้อหนังสือไปไม่นาน คุณเอฟก็ไปเขียนรีวิวที่เพจของตัวเอง แล้วก็แท็กชื่อเพจสมองไหลมา มันก็เลยทำให้ผมรู้ว่า ลูกค้าคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขาเปิดเพจที่เกี่ยวกับ Live streaming ผมก็เลยกดติดตามคุณเอฟและเข้าไปศึกษาหาความรู้จากคุณเอฟตั้งแต่นั้นมา
.
ผ่านไปประมาณ 3 เดือน ผมก็ย้ายคอนโดมาอยู่อีกซอยอีกหนึ่ง และผมก็รู้สึกคุ้นๆ ว่าคุณเอฟเคยบอกว่าอยู่ซอยนี้ ก็เลยทักไปหา ปรากฎว่า ผมย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับคุณเอฟพอดีเลย
.
เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็เลยขอคำปรึกษาเรื่องการ Live กับคุณเอฟ เล่าถึงความยากลำบากในการ Live แต่ละครั้ง ว่าต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ต้องใช้เวลาขนาดไหน ซึ่งหลังจากที่คุณเอฟฟังผมบ่นไปสักพัก แกก็ตอบกลับมาคำเดียวว่า...
.
“ไม่ต้องห่วงครับคุณฟิส เดี๋ยวผมจัดการให้”
.
ผ่านไป 3 วัน คุณเอฟก็กลับมา พร้อมอุปกรณ์ 3 อย่าง นั่นก็คือ กล้อง ไมค์ และ ไฟ (ที่เหมือนดาบ Star War) จากนั้นผมก็พาคุณเอฟมาที่คอนโด เมื่อเข้ามาถึงห้อง คุณเอฟก็เดินไปเดินมาด่อมๆ มองๆ ทำท่าเหมือนกำลังเลือกตั้งมุมกล้อง
.
ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้น คุณเอฟก็เอากล้องมาตั้งที่โต๊ะ ตั้งไฟบนชั้นหนังสือ แล้วก็เสียบไมค์ จากนั้นก็เชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วเปิด Live
.
Oh my god !! ทั้งมุมกล้อง แสงไฟ และคุณภาพเสียง นั้นอยู่ในระดับที่ดูเป็นมืออาชีพมากๆ อย่างที่ทุกคนเห็นอยู่ในปัจจุบันเลย มุมที่ผมคิดว่ามันไม่น่าจะสวย คุณเอฟก็ทำให้มันสวยขึ้นมาอย่างกับเสกได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคนที่เชี่ยวชาญต่างกัน สายตา และ ภาพที่เขามองนั้นต่างกับเรามากๆ
.
ที่สำคัญทุกครั้งที่ผมจะ Live ผมไม่ต้องจัดโต๊ะใหม่ ลากสายไฟ สลับสายชาร์จอีกเลย อยากจะ Live เมื่อไหร่ก็แค่กดเปิดกล้อง แล้วก็เริ่มได้เลย เพราะทุกอย่างถูกเซ็ตไว้แล้ว
.
ผมถึงขนาดร้อง ว้าว !! ในฝีมือของคุณเอฟ จากที่เคยพยายามเป็นเดือนๆ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่คุณเอฟมาแค่ 5 นาที ทุกอย่างก็เปลี่ยนไฟราวกับพลิกหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว ซึ่งผมก็มารู้ตอนหลังว่าคุณเอฟแกทำงานอยู่บริษัท Advanced Photo Systems Limited ซึ่งทำเกี่ยวกับพวกอุปกรณ์ Live streaming โดยคุณเอฟทำเกี่ยวกับด้านนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ถึงว่าละ ทำไมถึงเป็นมืออาชีพขนาดนี้
.
เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็เลยปรึกษาคุณเอฟให้แนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะกับการ Live streaming ให้ (เพราะที่ใช้อยู่นั้นยืมของเขามา) ซึ่งคุณเอฟก็แนะนำอุปกรณ์ที่ราคา คุณภาพ เหมาะสมที่สุด แถมยังเลือกร้านให้อีกต่างหาก ผมก็แค่เดินไปหน้าร้าน แล้วก็ยื่นรายการให้กับพนักงานเท่านั้นเอง
.
และในที่สุดผมก็สามารถทำรายการ Live ที่ดูเป็นมืออาชีพ ทั้งภาพ แสง และ เสียง ได้สำเร็จ
.
ผลปรากฎว่าหลังจากที่ผมยกระดับคุณภาพการ Live ขึ้นมา ยอดผู้เข้าชม Live ก็เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า แถมยังมียอดขายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย บอกเลยว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ถึงขนาดมีเพื่อนที่ขายออนไลน์ และ ทำเพจด้วยกันทักมาถามหลังไมค์เลยว่าทำยังไง Live ถึงได้ดูเป็นมืออาชีพขนาดนั้น
.
ซึ่งผมก็ได้แนะนำให้ไปปรึกษาคุณเอฟ ซึ่งทุกคนก็ได้รับคำแนะนำที่ดี หลายคนก็ขอใช้บริการคุณเอฟให้ไปเซ็ตระบบให้ เรียกได้ว่า เปลี่ยน Live ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นมืออาชีพ ด้วยต้นทุนที่ไม่แพงเลย
.
บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า อะไรที่เราไม่เก่ง ก็ให้คนที่เขาเชี่ยวชาญทำเถอะ เราไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างคนเดียว เพราะมันประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา แถมได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่าเยอะ
.
สำหรับใครที่ขายของออนไลน์ หรือ ทำเพจ อยู่ แล้วอยากจะยกระดับ Live ของตัวเองให้ดูเป็นมืออาชีพเหมือนผม ก็สามารถทักไปปรึกษาคุณเอฟได้ที่ เพจ Undervlog
.
หรือ ที่เพจบริษัท Advanced Photo Systems Limited ได้เลยนะครับ
.
ผมรับประกันเลยว่า คุณจะได้ความคุ้มค่ากลับมาแน่นอน...

---